"จองอึน" ผู้ซึ่งได้รับความรักจากทั้งอีจงซอกและซออินกุกในภาพยนตร์ No Breathing เป็นตัวละครที่ห่างไกลจากคำว่ารักแรกที่ผู้หญิงทั้งหลายไม่ค่อยจะชอบ เพราะเธอชอบตบหัวผู้ชายอยู่บ่อยๆ แทะตีนไก่ต่อหน้าผู้ชายที่ชอบเธอ เธอไม่ปั่นหัวผู้ชายแถมยังไม่อ้อนวอนขอโทษพวกเขา หลังจากได้พบกับยูริที่ไม่ได้แสดงท่าทีเขินอายอะไร ฉันเองก็ไม่สามารถจินตนาการใครที่จะมาเล่นบทจองอึนแทนที่เธอได้เลย
COSMOPOLITAN : การถ่ายทำวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? คุณเล่นหน้ากล้องราวกับว่าคุณกำลังคิดว่า "ถ่ายฉันให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้สิ" มันเป็นสิ่งที่พวกช่างภาพชอบใจ
เพราะมีจำนวนเซเล็ปสาวๆ ไม่น้อยที่โพสท่าและทำสีหน้าตามอำเภอใจ โดยไม่คิดว่ามันจะเข้ากับคอนเซ็ปถ่ายแบบหรือเปล่า
ยูริ : ฉันก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะคะ หลังจากที่เดบิวต์ได้ไม่นาน ฉันก็พยายามปั้นหน้าที่ตัวเองคิดว่าสวยที่สุด แต่หลังจากที่ทำและได้พยายามอะไรใหม่ๆ ฉันได้เรียนรู้ว่าฉันสามารถสวยและดูดีได้เมื่อมีท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อฉันถ่ายแบบ ฉันจะคิดว่ารูปสวยๆ นั้นมาจากการที่มันถูกถ่ายออกมาให้เข้ากับคอนเซปต์ แน่นอนค่ะ หน้าของคุณมันก็ออกมาสวยที่สุดอย่างแน่นอน
COSMOPOLITAN : แต่คุณก็หน้าตาดีนะ...
ยูริ : ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ฮ่าๆๆๆCOSMOPOLITAN : การแต่งตัวของคุณวันนี้ (เธอใส่เสื้อยืดลายพราง
สกินนี่ยีนส์สีดำ และรองเท้าผ้าใบสีดำ สวมสร้อยคอแบบ dog tag)
ดูน่ารักเหมือนกันนะ? แล้วปกติคุณแต่งแบบนี้บ่อยหรือเปล่า
ยูริ : ก่อนอื่นต้องบอกว่าฉันชอบใส่อะไรสบายๆ ค่ะ
แต่งตัวแบบผู้หญิงจ๋าดูไม่ค่อยเข้ากับฉันเท่าไหร่นัก
จากสมาชิกในวงทั้งหมดนะคะจะมีคนที่ชอบแต่งตัวหญิงๆ แต่ด้วยบุคลิกของฉันเอง ฉันไม่สามารถที่จะจับตัวเองให้ใส่เครื่องประดับหรือแต่งตัวให้ออกแนวน่ารักๆ หวานๆ ได้ค่ะ ฉันชอบสไตล์ง่ายๆ สบายๆ สีดำนี่ดูจะเหมาะสุดแล้วค่ะCOSMOPOLITAN : จุดเด่นของยูริคือ ผมสีดำตรงยาว
ตอนนี้ฉันเลยประหลาดใจที่ได้ยินมาว่าคุณเปลี่ยนสีผมเป็นแบบแบบทูโทนก่อนที่จะถ่ายทำ อยากรู้จริงๆ เพราะอะไรกันนะ
ยูริ :
อะไรๆ มันก็ดูน่าเบื่อค่ะ สีผม ชีวิตฉันก็ด้วย
ฉันเลยคิดว่าคงจะสนุกไม่น้อยถ้าจะลองเปลี่ยนสีผมก่อนถ่าย และมันบังเอิญมากฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะเข้ากับคอนเซปต์หรือเปล่า
COSMOPOLITAN : สมาชิกในวงคนอื่นๆ ต่างตัดผม
ทำผมบลอนด์ ดัดผม แต่ผมของยูรินั้นไม่ค่อยเปลี่ยนไปมากนัก
ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนทรงผม อยากเปลี่ยนเป็นแบบไหน
ยูริ : ถ้าฉันมีโอกาส ฉันอยากลองไว้ผมหน้าม้าแล้วตัดผมบ็อบค่ะ ไม่ใช่ตอนนี้นะคะ
แต่ในอนาคต ฉันอยากให้มันค่อยเป็นค่อยไป จนตอนนี้ ระหว่างที่ฉันโปรโมต
ฉันแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ
ดังนั้นฉันคิดว่าถ้าฉันเปลี่ยนทรงผมขึ้นมาจริงๆ
ต้องมีผลกระทบเข้ามาแน่นอนค่ะ ฉันเตรียมใจไว้สักพักแล้วCOSMOPOLITAN :
เมื่อคุณลองมองเกิร์ลกรุ๊ปที่พยายามทดลองสไตล์ใหม่ๆ ในแต่ละอัลบั้ม
แน่นอนว่าต้องมีบางสไตล์ที่ดูแย่จริงๆ สมมติว่าเป็นแบบนั้น
คุณว่ามีภาพเก่าๆ ของคุณที่เคยออกไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่คุณอยากจะลบทิ้งบ้างมั้ย?
ยูริ : ทำไมล่ะคะ ฉันก็มีแย่ๆ เยอะแยะเลยค่ะ โดยเฉพาะแฟชั่นสนามบิน ฮ่าๆๆ
เพราะส่วนมากแล้วฉันชอบสไตล์แบบง่ายๆ และยิ่งชอบใส่ชุดแบบสบายๆ เมื่อขึ้นเครื่อง แต่เดี๋ยวนี้คนมักจะสนใจแฟชั่นสนามบินกันมากขึ้น ฉันคงว่าอะไรไม่ได้ค่ะ
COSMOPOLITAN: ความคิดเห็นส่วนตัวนะจากสมาชิกทั้งหมดเก้าคนของ เกิร์ลส เจนเนอเรชั่น ฉันคิดว่ายูริเหมาะกับคอสโมโพลิแทนที่สุดเลยล่ะ คุณมีสุขภาพดี เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และเซ็กซี่อีกด้วย
ยูริ: คุณคิดอย่างนั้นหรอคะ ถ้างั้นฉันก็ดีใจมากๆ ค่ะ คอสโมนำเสนอไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงเก่งๆ เป็นนิตยสารที่ฉันชอบค่ะ ดีมากเลยเนอะ?
COSMOPOLITAN : แล้วคุณจะดูเซ็กซี่ที่สุดตอนไหน ? ช่วงไหนบ้างที่คุณรู้สึกว่ามันโอเคที่สุดแล้ว
ยูริ : หลังจากฉันอาบน้ำค่ะ ตอนที่ไม่มีอะไรอยู่บนใบหน้าเลย ฉันคิดว่าผู้หญิงที่สวยจริงๆ คือคนที่ดึงความสวยจากธรรมชาติออกมาใช้ได้ค่ะ ไม่ใช่คนที่สวยเพราะใช้เครื่องสำอางค์ แต่สามารถสวยได้จากผิวพรรณที่ดีและดูดีได้จากการมีผมตรงสวยสุขภาพดี และยังต้องมีหุ่นที่สวยอีกด้วย แบบนี้ใส่อะไรก็สวยหมดเลยค่ะ โอ้ และที่สำคัญคนที่ดูร่างกายสุขภาพดีก็ยิ่งทำให้สวยสุดๆไปเลยค่ะ COSMOPOLITAN : ฉันได้ดู I AM เมื่อคืนที่ผ่านมา
นอกจากตอนที่คุณได้ไปแสดงที่ Madison Square Garden
จะมีอีกตอนหนึ่งที่แต่ละวงเดินลงจากเวทีและกู่ร้องดังลั่นหลังจากทำการแสดงเดบิวต์ ตอนนั้นมันทำให้ฉันตื้นตัน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณคงต้องมีหลากหลายอารมณ์ผสมปนเปกันไปหมดในตอนนั้นแน่ๆ
คุณยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ชัดเจนอยู่หรือไม่
ยูริ :
แน่นอนค่ะ ตอนนั้นเป็นการออกอากาศของสถานี SBS
มันบรรยายความรู้สึกออกมาได้ยากมากหลังจากที่ลงจากเวทีที่ฉันใฝ่ฝันมานานถึง 7 ปี สมาชิกในวงต่างก็พูดจาให้กำลังใจกันและกัน
แต่ในตอนนั้นมันเต็มไปด้วยอารมณ์จริงๆ ค่ะ เพราะพวกเราทั้ง 9
คนต่างก็นับถอยหลังรอวันที่จะเดบิวต์
COSMOPOLITAN : คุณผ่านการคัดเลือกของ SM โดยการคัดเลือกที่มีการแข่งขันสูงสุด คุณเคยรู้มามั้ยว่าเหตุผลที่คุณผ่านคืออะไร?
ยูริ : อ่าค่ะ ฉันถามคนที่เลือกฉันมาครั้งนึงค่ะว่า "ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ตอนที่เลือกฉันคะ?"
ในตอนนั้น จากมุมมองของฉันเอง ฉันออกจะขี้เหร่นะคะ ร้องเพลงก็ไม่ได้ เต้นก็ไม่เป็น พูดก็ไม่เก่ง แถมยังร้องไห้เมื่อตอนร้องเพลงต่อหน้ากล้องอีกด้วย
แต่เขาบอกว่าเขาชอบตรงที่เวลาพวกเขาขอให้ทำอะไรฉันก็ทำโดยที่ไม่อาย ในตอนนั้นฉันเพิ่งอยู่เกรด 5 เองนะคะ COSMOPOLITAN : ฉันได้ดูวิดิโอที่คุณใส่ชุดซ้อมสีแดง เต้นเพลง Sara ของโบอา วิดิโอนั้นนานหรือยัง?
ยูริ : หลังจากออดิชั่นมาแล้วค่ะ และได้เป็นเด็กฝึกหัดมาแล้วประมาณหนึ่งปี
ไม่มีอะไรที่ฉันกลัวอีกแล้วตอนนั้น ฉันก็เลยโชว์ออกมาเพราะว่าฉันชอบอย่างไม่ต้องเขินอายค่ะ
COSMOPOLITAN : จากวันที่คุณเป็นเด็กฝึกถึงตอนนี้ ผ่านมา 12 หรือ 13 ปีแล้ว?
ยูริ : ตอนนี้ก็มากกว่า 14 ปีแล้วค่ะ
COSMOPOLITAN : มีช่วงไหนบ้างมั้ยที่บางสิ่งบางอย่างมันอยู่เหนือการควบคุมของคุณ?
ยูริ : ตอนที่ฉันเป็นเด็กฝึกหัดค่ะ วันนั้นหิมะตกหนักมาก ถนนก็ลื่น เขาบอกว่าไม่ควรออกไปข้างนอก ฉันเองก็ไม่เข้าใจนะคะว่าทำไมฉันถึงอยากออกไป จนโรงเรียนเลิก ฉันก็ไปซ้อม เป็นไปตามคาดค่ะ เนินเขามันลื่นมาจนฉันหกล้มไปหลายรอบเลย มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากค่ะตอนนั้นกว่าจะไปถึง และการฝึกซ้อมก็ถูกยกเลิก มันก็มีบางโอกาสนะคะที่การฝึกสอนจะถูกยกเลิก แต่ฉันใช้เวลาตั้งสองชั่วโมงกว่าจะไปถึง แล้วนี่มายกเลิกกันแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ฉันผิดหวังค่ะและรู้สึกว่าพวกเขาน่าจะบอกฉันก่อนล่วงหน้า
COSMOPOLITAN : เหตุการณ์แบบนั้นไม่ทำให้คุณทรุดตัวลงไปร้องไห้กับถนนเลยหรอ?
ยูริ : ฉันร้องไห้ค่ะ พอขึ้นไปบนรถไฟใต้ดินก็ร้องไห้ แถมตอนนั้นไม่มีที่ว่างสักที่ให้นั่งด้วย ในตอนนั้นหลังจากฝึกซ้อม เวลากลับบ้านฉันจะนั่งบนพื้นรถไฟใต้ดินตลอดเลย แต่ในวันนั้นฉันรู้สึกสงสารตัวเองที่ต้องนั่งอยู่บนพื้น ตอนนั้นฉันมีอาการเส้นเสียงอักเสบด้วยและไม่มีเวลามากนักก่อนที่จะมีการประเมินผล ช่วงนั้นมันยากลำบากมากค่ะ ฉันไม่ชอบใจกับอะไรต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวฉันเลย COSMOPOLITAN : เป็นอะไรที่แตกต่างจากภาพลักษณ์แบบสบายๆ ของคุณนะ
แต่ฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ
เคยได้ยินมาว่าคุณถึงกับร้องไห้เพราะเสียงร้องไม่ดีตอนที่เรียนการแสดง
ยูริ : ตอนที่ฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัยช่วงแรกๆ
สิ่งแรกที่ฉันต้องทำคือเอาภาพลักษณ์ของโซนยอชิแดยูริออกไปให้หมด
ระหว่างช่วงเล็คเชอร์มีตอนที่ฉันต้องทำอะไรประหลาดๆ แปลกๆ ไม่เหมือนคนอื่น
เช่น มีโจทย์ที่ต้องให้เราทำ ให้เราจับคู่กับเพื่อนและแสดงเป็นกระจกของอีกฝ่าย เพื่อนผู้ชายในห้องทำตัวเหมือนไม่สบายด้วยการทำหน้ายู่ยี่มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ฉันต้องเลียนแบบท่านั้น แต่ว่าฉันก็อายที่จะต้องทำค่ะ เพราะว่ายังไม่ค่อยสนิทกับใครเลย แต่ก็ไม่มีทางเลือกยังไงก็ต้องทำ คุณเข้าใจมั้ยคะ? หลังจากลองทำอะไรแบบนั้น ก็เหมือนได้ละลายพฤติกรรม ได้ทำลายกำแพงที่ฉันเป็นคนสร้างขึ้นมา ฉันรู้สึกว่าฉันได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลยค่ะจากการได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่เป็นคนปกติ (ไม่ได้มีชื่อเสียง) เมื่อมาถึงเรื่องของการแสดง นอกจากการเรียนรู้ในห้องเล็คเชอร์ การเรียนรู้จากการได้เข้าสังคมกับคนอื่นก็เป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ ในช่วงที่ทำการโปรโมทและโตขึ้นทุกปีๆ มีหลายครั้งที่ฉันรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองมันเฉาๆ ฉันเลยพยายามมจำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้เรียนมา อย่างเช่นตอนที่ต้องแสดงสีหน้าแบบนั้นน่ะค่ะCOSMOPOLITAN : ในตอนนี้ทักษะของคุณก็พัฒนาขึ้นแล้ว
ยูริ : นี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉันพยายามจะไม่ทำตัวเป็นหุ่นยนต์หรือคิดมากเวลาที่ทำการแสดงค่ะ มีบางอย่างที่ฉันได้ยินมาบ่อยค่ะว่าไหวพริบเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแสดง มันทำให้ฉันคิดได้ว่าฉันไม่ควรลืมความรู้สึกอิโนเซ้นท์แบบที่เด็กๆ เค้าทำกันน่ะค่ะ
COSMOPOLITAN :
ช่วงเวลาที่ฉันคิดว่าโซนยอชิแดดูสวยที่สุดคือตอนที่ฉันเห็นคุณแสดงสิ่งที่เรียกว่า "กั๊บ" ออกมาในรายการวาไรตี้โชว์ แต่หลังจากที่คุณเริ่มงานแสดง ดูเหมือนว่าคุณได้รับเอาคำขอร้องของพิธีกรในรายการวาไรตี้โชว์มาเป็นภาระไปซะแล้ว ยูริ : มันก็มีช่วงนึงที่ฉันสับสนบ้างค่ะ แต่ต่อมาฉันต้องโชว์ให้เห็นมิติที่หลากหลายในตัวฉันถ้าหากว่าฉันอยากจะทำการแสดง เพราะแบบนี้ฉันจึงรู้สึกว่าฉันไม่ควรจำกัดภาพลักษณ์ของตัวเอง ในบางครั้งมันก็ยากค่ะที่จะรักษาจุดยืนของนักแสดงหากว่าฉันทำภาพลักษณ์ไร้สาระแบบนั้นให้ชัดเจนไป ฉันพยายามปิดตัวเองเพราะกลัวว่าจะเป็นแบบนั้นค่ะ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็กลับไปเป็นตัวของตัวเอง ถ้าหากว่าถูกขอให้ทำแบบนั้นอีกครั้ง ฉันคิดว่าจะทำให้ดีกว่าเดิมอีกค่ะ ฮ่าๆCOSMOPOLITAN : เหมือนกับว่ามีเสน่ห์ดึงดูดเป็นอย่างมากบนเวที แล้วก็ต้องมาทำให้ตัวเองอับอายในรายการวาไรตี้โชว์ ไม่ค่อยมีเซเลปสาวๆ คนไหนดึงเอาเสน่ห์แบบนั้นออกมาได้ในสถานการณ์แบบนั้นนะ
ยูริ : ฉันอยากจะเป็นแบบนั้นจริงๆ นะคะ ดังนั้นฉันเลยดูพี่ฮโยริเป็นตัวอย่าง
เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจอยู่เสมอค่ะและเธอกินมังสวิรัติระหว่างที่ทำงานเป็นอาสาสมัครซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้เกิดมาแล้วมีแบบนั้น แต่เป็นสิ่งที่เธอเลือกที่จะทำสำหรับตัวเธอเอง จากการได้มองความก้าวหน้าในชีวิตเธอ ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่เจ๋งสุดๆ เลยค่ะ สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาใช้เช่นเดียวกันกับตอนที่เธอทำเพลงให้กับตัวเอง เธอมีภาพลักษณ์ที่สดใหม่และพัฒนาอยู่เสมอ ฉันอิจฉาวิธีการที่เธอปกป้องชีวิตส่วนตัวตอนที่ยังเป็นคนดังอยู่ รวมไปถึงเรื่องการแต่งงานด้วยCOSMOPOLITAN : ในบรรดาแฟนๆ ดูเหมือนจะมีแฟนๆ รุ่นพี่ผู้ชาย "คนที่รู้อะไรสักอย่างสองอย่าง" เช่นยุนจองชินหรือซองซียอง คุณคิดว่าเพราะอะไร (พวกเขาถึงชอบคุณ)?ยูริ : ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ แต่ก็ไม่เหมือนกับภายนอกของฉันนะคะ ฉันออกจะเป็นคนเปิ่นๆ นิดๆ ค่ะ เวลาที่ฉันถามคนอื่นว่ารู้สึกอย่างไรตอนเจอฉันครั้งแรก คนส่วนมากจะตอบว่าไม่ค่อยดีเท่าไร มีเพื่อนหลายคนบอกว่าฉันดูเป็นคนเย็นชาและเข้าถึงยากค่ะ แต่พวกเขาพูดแบบนั้นตอนที่มองฉันจากภายนอกนะคะ ฉันเองก็ทำผิดพลาดเยอะค่ะ
COSMOPOLITAN : มีบางอย่างที่ฉันไม่คาดคิด คือการที่คุณพูดถึง
Marion Cotillard ในหนังเรื่อง ‘La Vie en Rose
ว่าเป็นนักแสดงที่น่าประทับใจจากการสัมภาษณ์ครั้งก่อน
เมื่อตอนที่คุณบอกว่าคุณชอบบทเศร้าๆ ในภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ชมร้องไห้จนถอดใจได้ มันทำให้ฉันสงสัยว่าคุณมีมุมเศร้าๆ บ้างหรือเปล่า
แล้วด้านที่คาดไม่ถึงของยูริที่คนอื่นไม่รู้นั้นมีอะไรบ้าง
ยูริ : ก่อนอื่นเลยนะคะ ฉันมีความกังวลอยู่มากมายเลยค่ะ ก่อนที่จะเลือกอะไรก็ตาม
ฉันคิดและนำเรื่องต่างๆ ไปพิจารณาหลายเรื่อง เพราะว่าฉันคิดเยอะ
มีหลายๆ ครั้งมันทำให้ฉันเป็นคนที่อ่อนไหวง่าย เดี๋ยวนี้ฉันไม่ค่อยชอบสถานที่คนพลุกพล่าน แต่กลับชอบที่เงียบๆ ดูเหมือนว่าฉันเองมีเพื่อนเยอะ แต่ฉันกลับเป็นคนประเภทที่มีเพื่อนน้อยคน แต่เป็นคนที่ฉันจะอยู่ใกล้ชิดและยาวนาน ฉันเริ่มที่จะทำงานกับทีมงานที่คุ้นเคยกันมาเป็นเวลานาน พอช่วงเวลาพักแทนที่จะออกไปพบปะผู้คน ฉันก็เลือกที่จะพักผ่อนอยู่คนเดียวเงียบๆ มากกว่าค่ะCOSMOPOLITAN : เคยมีบ้างมั้ยเวลาที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับบทของละครหรือภาพยนตร์ที่ได้มอบหมายให้คุณ และคุณก็ประหลาดใจขึ้นมาว่า "นี่พวกเขาคาดหวังภาพลักษณ์แบบนี้จากตัวฉันเนี่ยนะ?"
ยูริ
: ไม่เคยมีนะคะ ฉันอยากจะเป็นคนที่มีหลากหลายมิติค่ะ ตอนที่ได้รับบท "แอนนา" ใน "Fashion King" ฉันก็กังวลนะคะว่าจะสามารถรับมือกับบทบาทนี้ได้หรือเปล่า ภาพลักษณ์ที่ฉันแสดงออกมาจนบัดนี้คือเป็นคนที่มีคาแร็คเตอร์ที่สดใสร่าเริง เพราะฉะนั้นฉันจึงสงสัยค่ะว่าคนจะมองฉันเป็นคนที่เคร่งเครียด ถือตัว และทะเยอทะยานแบบ "แอนนา" ได้หรือเปล่า แต่กลับกลายเป็นว่าผู้กำกับเลือกฉันเพราะไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับฉันมากนัก ฉันได้ยินว่าเขาเห็นเพียงแค่รูปของฉันและบอกว่านี่ล่ะคือลุคของแอนนา
เขาบอกว่ามันดูน่าจะมีเรื่องราวอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาเย็นชานั้นค่ะ
COSMOPOLITAN: นี่หมายความว่าการคัดเลือกเกิดขึ้นได้เพราะว่าเขาไม่รู้น่ะหรอ? ฮ่าๆ
ยูริ:
ฉันว่ามันโล่งอกนะคะที่ผู้กำกับไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับฉัน มาก ขอบคุณที่เป็นแบบนั้นค่ะ ฉันจึงสามารถโชว์ภาพลักษณ์ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากที่คนอื่นๆ คิดเกี่ยวกับฉัน ไม่มีความคล้ายคลึงอะไรกันเลยระหว่างเรื่องราวที่ฉันได้รับ
เพราะงั้ันฉันก็ดีใจค่ะ
COSMOPOLITAN: ตอนที่คุณเล่น 'Fashion King' ดูเหมือนมันมีความชัดเจนและกำหนดอารมณ์เอาไว้แล้ว มันมีด้านที่เป็นความซับซ้อนในคาแร็คเตอร์ของคุณ แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นคาแร็คเตอร์ที่เล็กน้อยสำหรับการแสดงของคนๆ หนึ่ง แต่กับบท "จองอึน" ในภาพยนตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเรื่อง 'No Breathing' นั้นเป็นบทที่สุดขั้วกับ "แอนนา" คือเป็นคนที่สดใส มีอิสระ ฉันรู้สึกว่าความรู้สึกของคุณคงจะแตกต่างแค่เพียงได้ไปที่กองถ่าย
ยูริ : ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ เมื่อตอนเข้าฉากไม่ว่าฉันจะอยู่ในสภาวะหรือสถานการณ์แบบไหน ฉันจะอารมณ์ดีมากๆ ค่ะ ความสดใส สุขภาพดีและมีพลังของคาแร็คเตอร์นี้ส่งผลมาถึงฉันค่ะ
COSMOPOLITAN: แล้วฉากแรกในภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง
ยูริ : ภาพยนตร์นั้นเป็นสิ่งที่ฉันอยากลองทำมากๆ ค่ะ
ฉันอยากรู้ค่ะว่าทำไมคนเราถึงกระตือรือร้นและสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์มากๆ และสนุกไปกับการชม
มัน เมื่อเปรียบเทียบกับละครแล้ว
ฉันคิดว่าภาพยนตร์เหมาะสมกับบุคลิกของฉันมากกว่าค่ะ ไม่ว่าจะงานอะไร ฉันจะเอาตัวเองไปมีส่วนร่วมกับมันทั้งหมด สละเวลาให้กับมัน และได้รับความรู้สึกดีๆ ของการได้บรรลุเป้าหมายจากการที่ฉันทุ่มเทลงไปค่ะ ถ้ามองข้ามผลลัพธ์ไป ฉันว่าฉันมีความสุขแค่เพียงได้นั่งคิดถึงบทบาทนั้นๆ เป็นเวลานานๆ ฉันยังชอบแต่ละก้าว (ของความสัมพันธ์) ที่ได้เกิดขึ้นกับทีมงานในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไปในกองค่ะ สำหรับงานชิ้นแรก ฉันได้รับคาแร็คเตอร์ที่หนัก และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกองก็ทำเอาเหนื่อยค่ะ เพราะแบบนี้อะไรๆ ก็ดูจะเยอะเกินไปสำหรับฉัน แต่ฉันก็สื่อสารกับผู้กับกับเยอะนะคะเวลาถ่ายทำหนัง และก็ถ่ายโดยใช้เวลาว่าง ซึ่งมันดีมากๆ เลย ฉันได้เรียนรู้ด้วยว่าความทุ่มเทและเวลาที่คนมีให้กับหนังเรื่องหนึ่งมันมากขนาดไหน
COSMOPOLITAN:
คุณชอบกีฬาทางน้ำถึงขั้นที่ได้รับใบรับรองในการดำน้ำด้วยใช่มั้ย เมื่อฉันได้ยินว่าคุณได้รับบทในภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำ
ฉันก็คิดว่าคุณน่าจะรับบทนักกีฬาว่ายน้ำ แต่มันก็ผิดคาดไป
กลายเป็นว่าได้เห็นยูริเล่นกีตาร์และร้องเพลง คุณได้มีไปฝึกกีต้าร์และการร้องเพลงต่างหากด้วยหรือเปล่า?
ยูริ : ใช่ค่ะ ฉันเรียนกีตาร์ด้วย
ฉันเคยอยากร้องเพลงแล้วเล่นกีตาร์ไปด้วยนะคะ
ฉันเคยได้กีตาร์จากแฟนๆ แล้วก็ที่ซื้อมาเองด้วยตัวนึงเพราะอยากเอาไว้แสดง
แต่เพราะเวลานั้นไม่เคยมาถึง ฉันเลยไม่ได้แตะมันเลย จนมันเก่าไปแล้ว
แต่พอฉันได้รับโอกาสที่ได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วต้องร้องเพลงใหม่ 2 เพลง เพลงหนึ่งคือร็อคบัลลาดและอีกเพลงคืออะคูสติก
สิ่งที่ฉันมีความสุขที่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้คือได้เรียนกีตาร์และร้องเพลงค่ะ
COSMOPOLITAN: บทนี้ไม่ใช่บทนักกีฬาว่ายน้ำ ผู้กำกับได้บอกเหตุผลบ้างหรือเปล่าว่าทำไมคุณได้รับเลือกให้เล่นบทนี้
ยูริ : ผู้กำกับได้เห็นรูปถ่ายฉันเป็นพันๆ รูปก่อนที่เราจะได้พบกันค่ะ เขายังดูฉันเวลาไปออกวาไรตี้โชว์ ตอนที่พบกันครั้งแรก ผู้กำกับบอกว่า "ฉันอยากได้จองอึนที่เป็นเหมือนยูริ" ฉันเองก็ไม่แน่ในนะคะว่าหมายความอะไร พอตอนที่ฉันถามว่าคาแร็คเตอร์ของจองอึนนั้นเป็นแบบไหน เขาบอกว่าเธอไม่ใช่พวกที่เป็นรักแรก ไม่ใช่รักแรกที่ไร้เดียงสา น่าสงสาร และอาจบินหนีได้ถ้าลมเปลี่ยนทิศ แต่เขาบอกว่าเธอเป็นคนที่ไม่ทำตัวขี้อายต่อหน้าผู้ชาย เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เป็นคนพึ่งพาตนเองและสดใสร่าเริง และเธอก็ยังเป็นคนที่มีบุคลิก 4 มิติที่ทำให้คนคิดว่า "ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในหัวของเธอกันแน่?" ตอนที่คุณได้อยู่ใกล้เธอ แต่ว่าก็เป็นคนที่น่าดึงดูดที่สามารถให้คำแนะนำที่อบอุ่นเวลามีคนมาคุยอะไรจริงจังด้วย ผู้กำกับบอกว่าเวลาที่เขามองฉัน เขาไม่รู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ และถึงแม้ว่าฉันจะดูร่าเริงแต่ก็ดูเหมือนว่ามีเรื่องราวอะไรบางอย่างซ่อนไว้ และยังดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนที่ไม่พยายามมองตาใครแต่จะไปตามที่ตัวเองฝัน ครั้งแรกตอนที่แสดงเป็นจองอึนในแบบที่ฉันเห็นภาพเธอ ผู้กำกับบอกว่าอย่าทำแบบนั้น แต่ให้ทำเหมือนเป็นตัวฉันเองค่ะ
COSMOPOLITAN: หลังจากที่ได้แสดงจริงๆ แล้ว จองอึนไม่ใช่พวกรักแรกจริงๆ หรอ?
ยูริ : อย่างแรกเลยนะคะ คือเธอเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ ค่ะ คุณจะไม่ได้เห็นเธอหัวใจเต้นแรงเพราะผู้ชาย หรือเห็นเธอทำตัวขี้อายนะคะ เธอชอบตบพี่อินกุก (รับบทเป็นวอนอิล)
ที่หลังหัว และหลังจากที่รู้ว่าจงซอก (อูซอง) ชอบเธอ
เธอพยายามแทะตีนไก่ต่อหน้าเขา
ไม่ง่ายเลยนะคะที่ผู้หญิงจะทำแบบนั้นต่อหน้าผู้ชายที่ชอบเธอ ใช่มั้ยคะ
นั่นล่ะค่ะ จองอึนทำแบบนั้น
COSMOPOLITAN: ที่เธอทำแบบนั้น เป็นเพราะว่าเธอไม่รู้ว่าผู้ชายชอบเธอ แต่ทำไปทั้งๆ ที่ก็รู้?
ยูริ : เธอไม่ได้สนใจพวกเขาค่ะ ผู้ชายที่มาชอบเธอไม่ได้มีอิทธิพลต่อชีวิตของจองอึนมากนัก
COSMOPOLITAN: แล้วอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตจองอึนล่ะ ความฝันที่อยากเป็นนักดนตรีหรอ?
ยูริ : ใช่ค่ะ การร้องเพลงพร้อบกับการเล่นกีตาร์คือสิ่งที่สำคัญกว่า
COSMOPOLITAN: มีตัวละครไหนบ้างที่คุณนำมาเป็นแบบอย่างสำหรับหนังเรื่องนี้
ยูริ : จวนจิฮุนค่ะ จากเรื่อง My Sassy Girl
ฉันดูหลายครั้งมากๆ เพื่อที่จะศึกษาคาแร็คเตอร์ของคนที่ง่ายๆ
แต่ว่าในบทของจองอึนที่ฉันเล่นนั้นไม่ใช่ตัวละครที่น่ารัก
คุณจะไม่มีทางคิดเลยว่าเธอน่ารักหรือเป็นผู้หญิงจ๋าตอนที่ได้ดู มีฉากที่เธอต้องสบถคำหยาบด้วยนะคะ ผู้กำกับบอกให้ฉันดัดเสียงลงไป พอฉันทำดัดเสียงและสบถ "คำที่ปกติฉันทำไม่ได้" ทีมงานบางคนถึงกับรู้สึกโดนหักหลัง พูดว่า "เธอทำแบบนั้นไปได้ยังไง" เพราะพวกเขาไม่คิดว่าฉันจะสบถได้แบบนั้นค่ะ ฮ่าๆ
COSMOPOLITAN: ดูเป็นตัวละครที่ผู้หญิงน่าจะชอบนะ
ยูริ : เพราะว่าไม่ใช่ตัวละครที่เป็นรักแรก มันจึงสนุกเมื่อได้แสดงค่ะ
แม้ว่ามีผู้ชายถึงสองคนชอบเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ปั่นป่วนไปกับพวกเขาเลย
ฉันคิดว่านี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจของผู้ชายต้องสับสนเองค่ะ
COSMOPOLITAN:
หลังจากที่ได้ร่วมงานกับยูอาอิน และ อีแจฮุนในละครเรื่องแรก
พอได้มาทำงานกับอีจงซอกและซออินกุกในภาพยนตร์เรื่องแรก ฉันไม่รู้จะพูดยังไงแต่ดูเหมือนว่าคุณโชคดีเวลาที่ได้จับคู่กับนักแสดงชาย เป็นอย่างไรบ้างกับการที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงชายที่มีชื่อเสียง?
ยูริ : ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยค่ะ
เพราะทั้งสองคนนั้นต่างจากที่ฉันคิดไว้มาก
ฉันคิดว่าพี่อินกุกน่าจะเป็นพี่ชายที่ดูแลเอาใจใส่
แต่จริงๆ แล้วเขากลับมีอารมณ์แบบช่างเลือกนะคะ สำหรับจงซอกดูเหมือนว่าจะเป็นเก๋ๆ
เท่ๆ แต่จริงๆเขาขี้เล่นมากๆค่ะ ฉันตีพี่อินกุกบ่อยมากในเรื่อง
และฉันก็รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น รู้ไหมคะ พี่อินกุกบอกว่าตีแรงๆ ไปเลย
ทำให้เราเล่นกันง่ายขึ้น พี่เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่ก็มีฟีลแบดบอยด้วย
มีฉาก NG ตอนเข้าฉากแรกของฉันกับจงซอกค่ะ เขาเลยกัดแขนฉันด้วย
COSMOPOLITAN: จริงหรือ แล้วใครทำให้ NG ล่ะ
ยูริ : จงซอกค่ะ ฮ่าๆๆ ฉันกลับมาลองคิดว่า นี่เขามาจากดาวดวงไหนกันแน่ เมื่อฉันถามเหตุผลว่าทำไมเขาทำแบบนั้น เขากลับย้อนถามกลับว่าเขาทำแบบนั้นหรอแล้วก็จำไม่เห็นได้ นี่ล่ะค่ะ เป็นบุคลิกจริงๆ ของเขา ฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนขี้หงุดหงิด แต่ผิดคาดค่ะ เขาค่อนข้างจะใส่ใจฉันอยู่นะคะ
COSMOPOLITAN: จองอึนไม่ได้สนใจหนุ่มๆ ทั้งสองคนเลย ว่าแต่คุณได้ลองคิดดูบ้างหรือเปล่า ถ้าสมมติว่าคุณเป็นจองอึน คุณจะเลือกใคร?
ยูริ : ฉันคิดไว้แล้วค่ะ และตัดสินใจว่าไม่ขอเลือกสักคนค่ะ จองอึนในหนังไม่ได้พอใจผู้ชายสองคนนั้นเลย สำหรับจองอึน วอนอิลเหมือนลูกหมาที่เธอเลี้ยงมานาน เหมือนเพื่อนที่ดี ส่วนอูซังเหมือนพี่ชาย ที่เธอเพิ่งได้ทำความรู้จัก ฉันคิดว่าหัวใจของจองอึนคงไม่ไขว้เขวไปกับผู้ชายทั้งสองคน ถ้าหากไม่มีผู้ชายคนที่สามโผล่มา ไม่แน่เธออาจจะอยู่กับกีตาร์แค่นั้นก็ได้
COSMOPOLITAN : ในสัปดาห์หน้าจะมีงานแถลงข่าวภาพยนตร์แล้ว คุณต้องได้รับคำถามให้เลือกระหว่างจงซอกกับอินกุกแน่ๆ แล้วคุณจะตอบว่าอย่างไร
ยูริ : แน่นอนค่ะ แล้วฉันต้องทำอย่างไรดี อืม...คงจะตอบเหมือนจองอึนที่ไม่เลือกใครเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
COSMOPOLITAN : จากภาพยนตร์ที่จะฉายอีกไม่นานนี้ ฉันสงสัยว่าภาพลักษณ์แบบไหนที่คุณอยากจะเป็นต่อไปในอนาคต อย่างเช่นอดีตที่คุณบอกว่าอยากจะเป็นนักดนตรีที่มีพลังในการแสดง อย่าง Pink และมีคอนเสิร์ตใหญ่ จากที่เห็นคุณใส่ชุดซ้อมสีดำในคอนเสิร์ตแสดงเพลง 1 2 Step ของ Ciara ทำให้ฉันคิดว่าคุณน่าจะลองออกอัลบั้มแนวฮิพฮ็อพดูนะ
ยูริ : ฉันก็คิดว่ามันคงจะสนุกดีนะคะที่จะได้โปรโมตซับยูนิตฮิพฮ็อพกับฮโยยอน การแสดงเองก็เป็นอะไรที่ฉันยังอยากทำต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้นานๆ ค่ะ ฉันอยากลองรับหลายๆ บทบาท มีคาแร็คเตอร์ในหนังตั้งเยอะแยะนี่คะ รู้ไหมคะ ฉันไม่สนใจค่ะว่าคาแร็คเตอร์จะเป็นอย่างไร เพราะว่ามันมีหลายด้านหลายมุมในตัวฉัน เหมือนกับถอดเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะค่ะ ฉันอยากเล่นบทอะไรแบบนัั้น
Thai Translated : http://www.kkabyul.com
Please take out with full credit
ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ ^^
อ่านแล้วเหนื่อยเลย ฮิฮิ