นักแสดงสาว ควอนยูริ หรืออีกชื่อหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี เกิร์ล เจนเนอเรชั่น ยูริ และอีกมุมหนึ่ง ควอนยูริ ในวัย 24 ปี ที่เราไม่รู้จัก ณ จุดๆ หนึ่งที่ภาพลักษณ์ทั้งสามมุมมีความเหลื่อมล้ำกัน เธอได้เปิดปากถึงเรื่องราวที่คงจะได้นั่งขบคิดมาพอสมควรแล้ว สีหน้าของยูริไม่ได้พยายามที่จะปกปิดความเป็นกังวลหลายอย่าง และจากสถานการณ์ที่ต่างออกไปจากปกติที่โอบล้อมรอบตัวเธอ
Ceci: ละครเรื่อง 'Fashion King' อวสานไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฉันคิดว่ามันน่าจะรู้สึกเหมือนการตกหลุมรักแต่แรกพบ เพราะว่ามันเป็นละครเรื่องแรกของคุณ
ยูริ: ความรู้สึกแบบที่ว่านั่นถูกเผ็งเลยค่ะ ใจฉันโบยบินไปอย่างกับว่าตกหลุมรักแรกพบเลยค่ะ แล้วฉันก็คาดหวังกับมัน มันมีความรู้สึกเสียใจมากเพราะว่าฉันยังมีความบกพร่องอยู่ เป็นอะไรที่ไร้เดียงสามาก เป็นความรู้สึกเศร้าๆ แต่ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วฉันรู้สึกยังไงน่ะค่ะ ฉันไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะว่าฉันตกหลุมเข้าไปในบทบาทของ 'อันนา' อย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งทำให้ฉันเกิดเป็นกังวลขึ้นมาว่า 'จริงๆ แล้วฉันเป็นคนยังไงกันแน่?' เป็นช่วงเวลาที่ฉันเจ็บปวดและได้เรียนรู้เป็นอย่างมาก เพียงแค่ช่วง 2-3 เดือนผ่านไป แต่มันก็รู้สึกเขินๆ อายๆ ที่ดูตัวเองนะคะ ไม่นานมานี้ ตอนช่วงไปทำงานที่ต่างประเทศ ฉันเห็น 'Fashion King' ในทีวี และก็เผลอกดเปลี่ยนช่องโดยไม่รู้ตัวด้วยนะคะ (หัวเราะ) มาดูอีกทีหลังจากได้ปลอบใจตัวเองแล้ว ก็รู้สึกดีจริงๆ ค่ะ
CeCi: คุณพูดบ่อยครั้งว่าตัวเองเจ็บปวดมาก มันเป็นความเจ็บปวดจากบทบาทที่อันนาได้รับ หรือจากการแสดงของคุณเอง หรือเป็นผลจากละครเอง?
ยูริ: ฉันไม่มีความรู้สึกเสียใจแม้แต่ 1% กับผลของละครเลยค่ะ มันเป็นที่การแสดงของฉันและก็ตัวคาแร็คเตอร์ต่างหาก แต่ละตอนที่เล่น ความเป็นกังวลและความเจ็บปวดมันก่อตัวขึ้นจากการที่ฉันทุ่มสมาธิให้กับบทบาทที่ได้รับ ทันทีที่ได้เห็นสคริปจาก 'Fashion King' เพราะว่าฉันอยากจะทำมันมาก ฉันก็กระโจนเข้าใส่มันเลย อย่างไรก็ดี มีฉากนึงในตอนแรกของละครที่ฉันต้องใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเพอร์เฟ็ค ความเสียใจและเป็นกังวลก็เริ่มขึ้น 'อ่า นี่ฉันตัดสินใจผิดไปหรือเปล่า?' และยิ่งฉันได้รู้จักคาแร็คเตอร์มากขึ้นเท่าไร มันยิ่งรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นงานยาก แต่ใจนึงฉันก็คิดว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงอยากทำให้มันเสร็จมากกว่าเดิม ถ้าหากมันเป็นชะตากรรมให้อันนามาหาฉันจริง ฉันก็รู้สึกว่าการทำผลงานละครเรื่องนี้ให้จบก็เป็นการช่วยหาคำตอบให้กับข้อสงสัยในตัวฉันค่ะ ช่วงเวลาที่ฉันใช้ไปกับความเป็นกังวลและการแสดง เป็นช่วงเวลาที่ฉันได้คำตอบให้กับคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับตัวเองค่ะ
CeCi: บทบาทที่คุณได้รับมันค่อนข้างหนักและซับซ้อนมาก ความโศกเศร้าของอันนามีผลอะไรกับตัวคุณหรือเปล่า?
ยูริ: ฉันอยากจะตอบว่า 'ไม่ขนาดนั้นค่ะ' แต่จริงๆ แล้วฉันค่อนข้างจะเศร้าเลยล่ะ เพราะว่าฉันอยากจะรู้สึกถึงอันนาอย่างใกล้ชิดมาก ฉันคงจะทำมันไปอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะปกปิดเอาไว้ ฉันก็จะทำแสดงตัวให้ร่าเริงมากกว่าปกติ และทีมงานก็คงไม่มีใครสังเกต แต่คนใกล้ชิดฉันต่างก็พากันถามค่ะว่าทำไมฉันถึงกลายเป็นคนห่อเหี่ยวจัง
CeCi: คุณได้ยึดเอาทักษะเอาตัวรอดอะไรบ้างไหมตอนที่อยู่ในกอง?
ยูริ: วิธีการเข้ากับคนของฉันเองคือการ 'ถามคำถามเยอะๆ' ไม่กลัวที่จะเป็นคนที่ไม่รู้อะไร ฉันพยายามพูดคุย อดทน จนกระทั่งได้ความไว้วางใจค่ะ
CeCi: คุณคงจะได้เป็นคนที่กล้ามากๆ ที่ทำแบบนั้น แล้วมันใช้ได้ผลไหม?
ยูริ: จริงๆ แล้วฉันก็เขินนะคะ เพราะอย่างนั้นฉันก็เลยทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่ตอนอยู่ในกอง ก็เป็นความจริงค่ะที่ฉันเด็กสุดแล้วก็ขาดประสบการณ์มากที่สุด ฉะนั้นเพื่อที่จะไม่ทำให้เสียเรื่อง ฉันเลยรู้สึกว่าสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำได้คือการหาคำตอบจากพวกรุ่นพี่และก็เรียนรู้ให้เร็วที่สุดค่ะ
CeCi: ฉันเดาว่าคุณคงจะรู้สึกโดดเดี่ยวตามลำพังอยู่ในกอง ไม่เหมือนกับตอนโปรโมทกับเกิร์ล เจนเนอเรชั่น
ยูริ: ฉันรู้สึกหลายอย่างเลยค่ะ ฉันคิดว่า 'มีประโยชน์หลายอย่างที่ฉันจะได้รับกับความสามารถตื้นๆ ของฉัน' และความรักที่ฉันมีต่อสมาชิกในวงก็ยิ่งมากเข้าไปอีก ตอนที่ฉันถ่ายอยู่ เกิร์ล เจนฯ - TTS ก็กำลังโปรโมท ฉันเลยร้องเพลงแล้วก็เต้นตามไปด้วยตอนที่ได้ดูรายการเพลงน่ะค่ะ ทีมงานพากันพูดว่า 'เธอเกิดมาเพื่อเป็นนักร้องนะ' และฉันก็เห็นด้วยค่ะ คิดดูว่า 'การร้องเพลงในฐานะสมาชิกของเกิร์ล เจนฯ มีความสุขสุดๆ แล้ว!'
CeCi: ได้ยินคำว่า 'ความสามารถตื้นๆ' จาก เกิร์ล เจนฯ - ยูริ ฉันรู้สึกแปลกใจกับสีหน้าจริงจัง มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?
ยูริ: มันหมายความว่า เทียบกับความสามารถอันน้อยนิดที่ฉันมีอยู่ตอนนี้ ทำให้ฉันได้รับความรักและความเข้าใจเป็นอย่างมากค่ะ ความรักที่ฉันจะให้ได้มันน้อยมากเมื่อเทียบกับที่ฉันได้รับ และฉันก็มาคิดว่าจะทำยังไงที่จะตอบแทนความรักเหล่านั้นได้ค่ะ
CeCi: เครดิตในละครใช้ชื่อจริงของคุณ ควอนยูริ ไม่ใช่แค่ ยูริ
ยูริ: ถ้ามองในภาพกว้างนะคะ มันรู้สึกเหมือน 'ยูริองค์ที่ 2' มันถือเครดิตด้วยการใช้ชื่อจริงฉัน ฉันฝันมาตลอดค่ะว่าจะได้เห็นตัวอักษรสามตัวที่เป็นชื่อของตัวเองบนทีวี แต่พอเอาเข้าจริงๆ ได้เห็นตัวอักษรสามตัวที่อ่านว่า 'ควอน ยูริ' มันก็รู้สึกแปลกๆ นิดนึงค่ะ
CeCi: ไม่ว่าจะเป็นไปในทางที่ดีหรือไม่ดี 'Fashion King' เป็นละครที่เหมาะสมกับคำว่า 'วัยรุ่น'
ยูริ: ใจฉันรู้สึกเติมเต็มและก็รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย ...ใช่แล้วค่ะ มันเป็นเรื่องที่ใกล้เคียงความเป็นจริงของหนุ่มสาวมาก มีหลายคนบอกว่ามีหลายอย่างที่ดูแล้วรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ แล้วก็มีบางพวกที่บอกด้วยว่าพวกเขารู้สึกไม่ค่อยดีหลังจากได้ดู เพราะว่าละครมันแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงอยู่หลายครั้ง แทนที่จะเป็นเรื่องราวความรักฟู่ฟ่าแบบเพ้อฝัน ก็มีฟีดแบ็คที่หลากหลายค่ะ
CeCi: คุณอยู่ในวัย 20 คุณต้องการให้ชีวิตวัยรุ่นของคุณเป็นยังไง
ยูริ: ฉันหวังว่าช่วงวัยรุ่นฉันจะได้เจอความทุกข์เยอะๆ หวังว่าฉันจะสามารถยอมรับช่วงชีวิตที่ขึ้นและลงที่เกิดขึ้นจริงและสามารถผ่านมันไปได้ ฉันจะเติบโตและเรียนรู้เป็นสองเท่ากับสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลานั้น เพราะฉันเป็นประเภทมองหาปัญหาและความเป็นกังวลมากไป ทำให้ตัวเองเหนื่อย แต่ก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นค่ะ
CeCi: ในฐานะนักแสดง ก้าวแรกของคุณดูจะหนักหนา คุณคิดว่าก้าวที่ดีต่อไปจะเป็นยังไง?
ยูริ: ฉันไม่อยากจะเล่นบทเบาๆ ทันทีค่ะ ตราบใดที่มันไม่ใช่บทที่ต้องเปลืองภาพลักษณ์มากเกินไป ฉันก็อยากจะลองทุกบทค่ะ
CeCi: คุณมีภาพลักษณ์หรือบทบาทอะไรที่คุณอยากจะเป็นไหมในวง เกิร์ล เจนฯ?
ยูริ: มีค่ะตอนช่วงเดบิวท์ใหม่ๆ แต่พอมีประสบการณ์มากขึ้น ฉันรู้สึกว่ามันคงจะดีกว่าถ้าได้เป็นคนที่ไม่มีภาพลักษณ์หรือบทบาท ฉันอยากจะลองหลายๆ อย่างและกลายเป็นคนที่เหมาะกับงานท้าทาย ถ้าเลือกได้ ฉันอยากเป็นคนที่มีภาพลักษณ์ที่มีพลัง เป็นคนที่ปล่อยความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา! ลองคิดดูนะคะ มีพลังและมีชีวิตชีวา ท้ายที่สุดก็กลายเป็นมีเสน่ห์ ฉันคิดว่าเสน่ห์เป็นอะไรที่จะออกมาเมื่อเราเชื่อใจและมั่นใจในตัวเราเองค่ะ
CeCi: คุณเป็นคนที่มีความเชื่อใจและมั่นใจตัวเองหรือเปล่า?
ยูริ: ปกติก็ไม่เลยนะคะ ถึงขนาดที่ว่าแฟนๆ พากันเรียกว่าฉันขี้เล่นน่ะค่ะ เพราะงั้นฉันก็ไม่อยากจะเป็นคนเพอร์เฟ็คในชีวิตปกติของตัวเองเหมือนกันค่ะ เวลาที่ฉันพยายามเปลี่ยนตัวเอง ฉันก็จะยิ่งเหนื่อย แต่มันก็ชัดเจนนะคะเวลาฉันอยู่บนเวที ฉันคิดว่า (ความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง) แสดงให้เห็นอยู่ในตัวควอนยูริคนทำงานค่ะ
CeCi: เกิร์ล เจนฯ เป็นเหมือนคำบัญญัติใหม่ 'ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ' มีภาพลักษณ์อะไรอื่นของ เกิร์ล เจนฯ อีกไหมที่คุณนึกไว้?
ยูริ: ฉันนึกอยู่ทุกวันค่ะ เพื่อที่จะได้ตอบโจทย์ความคาดหวังที่มากมาย ตอบโจทย์ความพึงพอใจของพวกเราเอง ฉันหวังว่ากำแพงที่ เกิร์ล เจนฯ ต้องพิชิตให้ได้คือตัวของ เกิร์ล เจนฯ เอง เท่านั้น ฉันยังหวังอีกว่าคนที่จะมาทำลายสถิติและภาพลักษณ์ของ เกิร์ล เจนฯ ได้คือพวกเราเอง ฉันอยากจะทดสอบขีดจำกัดของพวกเราตลอดค่ะ แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ไหนนะคะ
"ในวัย 24 ปี ก็เป็นเรื่องยากนิดหน่อย มันไม่ใช่แค่ความกังวลชั่วครู่ชั่วยาม มันเป็นเรื่องยากที่ได้ใช้ชีวิตผ่านวัย 23 ปี เช่นเดียวกับในวัย 22 ปี
ฉันมีความเป็นกังวลมากมาย ฉันลุกขึ้นมาจากปัญหาเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันไรก็ตกลงไปในความเป็นกังวลที่มาใหม่นั้นอีก ฉันเติบโตมาแบบนั้นทุกวัน"
CeCi: คุณพูดคุยอะไรแบบนี้บ่อยไหมกับสมาชิกในวง?
ยูริ: มีบ้างบางโอกาสค่ะ อีกนานแค่ไหนที่เราจะเป็น เกิร์ล เจนฯ เราควรจะเดินไปทางไหนดี คุยกันหลายสิ่งค่ะ ตั้งแต่เรื่องที่ว่าตอนนี้เราควรกินอะไรกันดี สเป็คเราเป็นยังไง ใครดูดีบ้างเดี๋ยวนี้ คอนเซ็ปอะไรน่าจะดีสำหรับอัลบั้มต่อไปของเรา หรือท่าเต้นแบบไหนที่เราดูเท่ดูดี
CeCi: อะไรคือสิ่งที่ ควอนยูริ อายุ 24 ปี และสมาชิกในวงอยากได้มากที่สุดในชีวิตปกติทุกๆ วัน?
ยูริ: การเข้ากับคนธรรมดาๆ ค่ะ ล่าสุดนี่ ฉันได้เรียนโยคะค่ะ และฉันก็ชอบมากที่ได้อยู่ท่ามกลางพวกพี่ๆ คนวัยรุ่น และพวกแม่ๆ ค่ะ การได้ใช้เวลาธรรมดากับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยเป็นตัวกระตุ้นพลังอย่างดีเลยค่ะ ฉันไม่อยากจะเสียเวลามีค่านี้ไป ฉันกลัวจะติดกับดักของการเป็นคนพิเศษ ในกรณีที่ฉันเคยชินกับการได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ จนเลิกรู้สึกขอบคุณกับสิ่งเหล่านั้น และสมมติว่าฉันไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตอนที่ไม่ได้อยู่ในแสงไฟแล้ว
CeCi: ดูเหมือนว่ามีช่วงเวลาที่คุณได้นึกถึงเรื่องนี้แล้ว
ยูริ: มีค่ะ เอาจริงๆ เลยนะคะ เวลามองดูอะไรที่พิเศษ แล้วคิดว่า 'ทำไมพวกเขาไม่ทำอย่างนั้นให้เราบ้าง?' ฉันก็รู้สึกโมโหอยู่เหมือนกัน แต่ท้ายสุดแล้ว มันก็เป็นเพียงกำแพงที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง ฉันเริ่มกลัวแค่เพียงคิดว่าต้องอยู่ในนั้นคนเดียว หลังจากมาคิดได้ว่าอะไรที่ฉันจะสามารถทำเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสร้างกำแพงนั้นขึ้นมา คำตอบก็ง่ายๆ เองค่ะ มันคือการทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำยากให้ยากเหมือนกัน และการทำสิ่งที่คนทั่วไปทำแล้วง่ายให้ง่ายเหมือนกันวิธีนี้วิธีเดียวค่ะ
"เพราะว่าฉันมีเวลาว่าง ฉันจึงมองดูตัวเองได้ถ้วนถี่ (ฉันมองเห็น) ว่าฉันได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
โอกาสดีๆ เหมือนกับปาฎิหาริย์นั้นเข้ามาหาฉันอย่างง่ายดายเสมอ และฉันก็ควรจะเป็นคนๆ นั้นที่รู้สึกยินดีและขอบคุณ"
Source: CeCi via joinsmsn
Eng trans & Edited : ch0sshi@soshified, bhost909@soshified
แปลไทย/เรียบเรียง: www.kkabyul.com | Kwon Yuri's Thailand Fansite